เฉลย แสงสีเขียวปริศนาเหนือน่านฟ้าไทย

เครดิตภาพ : NARIT
ปรากฏการณ์ครั้งนี้ ดร.มติพล ตั้งมติธรรม ผู้เชี่ยวชาญดาราศาสตร์ สดร. ได้เขียนผลงานผ่านเพจเฟซบุ๊ก NARIT ไว้ดังนี้ จากภาพสามารถตั้งสมมุติฐานได้หลายข้อที่ทุกคนอาจสงสัยกันก็คือ
ไม่ได้เกิดจากไฟร์บอล
แสงสีเขียวนั้นเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากในธรรมชาติ สามารถเกิดขึ้นได้หากมีอุกกาบาตไฟร์บอลลูกใหญ่ๆ ที่มีโลหะนิกเกิลเป็นองค์ประกอบ สามารถส่องเป็นแสงสีเขียวได้ แต่ก็จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะดับไป กรณีนี้จึง “เป็นไปไม่ได้”
ไม่ใช่แสงออโรร่า
อีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือแสงจากออโรร่า ที่เปล่งออกมาเป็นสีเขียว แต่ออโรร่านั้นไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากแถบใกล้ศูนย์สูตรเช่นประเทศไทย ยกเว้นจะมีพายุสุริยะที่รุนแรงมาก ซึ่งก็จะต้องได้รับรายงานเห็นในที่ละติจูดที่สูงกว่ากรณีนี้จึง “เป็นไปไม่ได้” เช่นกัน
เป็นแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น ?
ความเป็นไปได้เดียวก็คือแสงที่มนุษย์สร้างขึ้น หากพิจารณาจากบริเวณริมชายฝั่งประเทศไทยที่มีการประกอบการประมงใช้ “เรือไดหมึก” ซึ่งปล่อยแสงสีเขียวสว่างจ้าไปทั่วท้องฟ้ากันเป็นประจำ คำอธิบายที่ชัดเจนและง่ายที่สุดก็คือ แสงสีเขียวที่เห็นนั้นมีเหตุมาจาก “แสงจากเรือไดหมึก” นั่นเอง
สามารถเปรียบเทียบได้กับภาพบนซ้ายที่ถ่ายไว้เองเมื่อปี 2014 จะเห็นได้ว่าไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก อาจบังเอิญว่าในวันนั้นสภาพอากาศทำให้แสงเรือไดหมึกสะท้อนออกมามากที่สุดก็ได้ ก็เลยดูแปลกตาเป็นพิเศษ แสงสีเขียวลักษณะเดียวกันนี้เคยทำให้แตกตื่นกันไปถึงในอวกาศทีเดียว เพราะนักบินอวกาศที่ส่องลงมาจากสถานีอวกาศนานาชาติ ก็ต้องอึ้งกับแสงสีเขียวเหนือท้องทะเลไทยเช่นกัน
หากศึกษาให้ลึกขึ้น เราอาจตั้งคำถามว่า แสงสีเขียวมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไรหรือไม่กับน้ำทะเล ? เป็นช่วงความยาวคลื่นพิเศษที่ส่องได้ดีหรือเปล่า ?
ขอตอบว่าพบว่าแสงสีเขียวไม่ได้มีความพิเศษอะไร เพราะจัดอยู่ตรงกลาง ๆ ของสเปกตรัมแสง และน้ำทะเลดูดกลืนแสงความยาวคลื่นมากได้ดีกว่า เป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำทะเลจึงเป็นสีน้ำเงิน และเพราะเหตุใดสัตว์ใต้ท้องทะเลลึกจึงเป็นสีแดง เพราะแสงสีแดงนั้นไม่ตกถึงพื้นทะเลเลย ซึ่งถ้าพูดเช่นนั้นแล้วเราก็น่าจะอนุมานได้ว่าแสงสีน้ำเงิน น่าจะส่องทะลุทะลวงได้ดีกว่า
ทำไมถึงชาวประมงถึงไม่ใช้แสงสีเขียวในการไดหมึก
ในเชิงชีววิทยามีผลงานตึพิมพ์ในปี 1979 ได้ตั้งสมมติฐานการตอบสนองต่อแสงในสัตว์กลุ่ม Cephalopodd ซึ่งงานวิจัยดังกล่าว ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเพราะเหตุใดหมึกจึงพุ่งมาหาแสงไฟ แต่สำหรับแมลงบนบกนั้น เราพอจะทราบว่าสาเหตุที่ “แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ” นั้น แท้จริงแล้วเป็นเพราะพวกมันพยายามใช้แสงจันทร์ในการนำทาง
จึงอาจเป็นไปได้ว่าสัตว์น้ำอาจจะใช้วิธีเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามทั้งแพลงก์ตอนและหมึก ต่างก็ถูกล่อได้ทั้งแสงสีฟ้า และสีเขียว ไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าเราจะใช้แสงสีอื่น เช่นแสงจากหลอดโซเดียมที่มีสีเหลือง เราก็จะพบว่าแสงเหล่านั้นก็จะยังสามารถกระตุ้นเซลล์รับแสงของเหล่าสัตว์ทะเลได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ความสว่าง มากกว่าสีในช่วงสเปกตรัมที่ใช้
คำถามต่อมาคือ เป็นไปได้ไหมว่าหลอดไฟสีเขียวนั้นเป็นหลอดไฟที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด ? ซึ่งก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน เพราะว่าค่าไฟ หรือปริมาณพลังงานที่ใช้ไปในการปล่อยแสงไฟนั้น คิดเป็นส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าน้ำมัน ค่าเรือ และค่าแรงที่ต้องใช้ไป
สุดท้าย คำตอบเพียงคำตอบเดียวที่อาจจะอธิบายแสงสีเขียวได้ดีที่สุด อาจจะอยู่ในวิชาสังคมศาสตร์ เราใช้แสงสีเขียว เพียงเพราะว่ามันเป็นแสงที่ “ฮิต” หรือได้รับความนิยมมากที่สุด เพียงเท่านั้นเอง และหากเราไปพิจารณาดูอุตสาหกรรมในการตกหมึกทั่วโลก เราก็จะพบว่าแต่ละประเทศนั้นมีสีที่ได้รับความนิยมที่แตกต่างกันออกไป.