Readspread.com

News and Article

คว่ำบาตร คือ ดาบสองคม กรีดแทงเขาเราก็เจ็บ

การตัดสินใจคว่ำบาตรรัสเซียอย่างสุดโต่งรุนแรง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์โลก ตั้งแต่การตัดสกุลเงินรูเบิล ออกจากระบบชำระเงิน SWIFT ไปจนถึงการอายัดเงินสำรองระหว่างประเทศ ที่รัสเซียฝากไว้กับสหรัฐอเมริกา มีการแบนและไล่ยึดทรัพย์ชาวรัสเซียในประเทศต่างๆ มาเป็นของรัฐบาลในประเทศนั้น แบบงงกันทั้งโลกว่าสามารถทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ...

การกระทำของโลกตะวันตกในครั้งนี้ เปรียบเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ทางการเงินที่มีกัมมันตรังสีส่งผลกระทบไปทั้งโลก สงครามการทหารยังมีกติกาสากลเป็นที่รู้กันว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ แต่สงครามเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศยังไม่เคยมีใครร่างกติกาการรบแบบอนุสัญญาเจนีวา ให้พอยกมาห้ามปรามกัน

สงครามเศรษฐกิจครั้งนี้จึงสู้กันอย่างไร้หลักการและเหตุผล อย่างสหรัฐอเมริกา ยอมกระทั่งคว่ำบาตร การค้าอาหาร และพลังงานที่ประเทศตัวเองต้องใช้ แล้วไปง้อประเทศที่ตัวเองเคยไปประกาศคว่ำบาตรเขาไว้ อย่าง เวเนซุเอลา และ อิหร่าน เพื่อให้พวกเขาได้ขายน้ำมันแทนรัสเซีย สองประเทศนี้ตอบตกลง แต่ก็ไม่วายทิ้งท้ายว่ายังไงเสียพวกเขาก็ยังอยู่ข้างรัสเซีย

ค่าเงินรูเบิลตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ลงไปแตะถึง 150 รูเบิลต่อดอลลาร์ (วันที่ 16 มี.ค. 2565 ดีดตัวกลับมาแข็งค่าที่ 95 รูเบิลต่อดอลลาร์) แต่ถามว่าถึงขั้นมีค่าเป็นแค่เศษกระดาษหาซื้ออะไรไม่ได้ไหม ตอบว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น คนรัสเซียยังสามารถหาซื้อสินค้าในประเทศโดยใช้เงินรูเบิลได้ตามปรกติ หากเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศก็ยังใช้เงินรูเบิลหาซื้อได้ในราคาที่แพงกว่าเดิมประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่หากเป็นสินค้านำเข้าหรือต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ ราคาจะแพงขึ้นประมาณ 20 – 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

อีกทั้งรัสเซียกำลังเผชิญภาวะเงินเฟ้อสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจที่เพิ่งฟื้นจากวิกฤตโควิดมาอีกระลอกหนึ่ง ไม่เพียงแค่คนรัสเซียจะลำบากมากขึ้น คนต่างชาติที่ไปทำงานหาเงินที่รัสเซียและส่งเงินกลับประเทศ จะไม่สามารถส่งกลับมาเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างที่เคยทำมาก่อน

รัสเซียจึงต้องเร่งหาทางออกให้่ตัวเองโดยมี 4 ทางที่รัสเซียใช้ในเวลานี้คือ

1.พึ่งพาจีนและอิงค่าเงินสกุลหยวนแทนดอลลาร์สหรัฐเต็มตัว โดยใช้ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่านหยวน ระบบโอนเงินข้ามชาติผ่านยูเนี่ยนเพย์ของจีน

2.ใช้ช่องทางสกุลเงินคริปโต หรือสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรในอนาคตเพราะสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่จะปราศจากการแทรงแซงโดยรัฐบาลใดๆ ในโลกนีั

3.สร้างเส้นทางการค้าและการชำระเงินระหว่างประเทศที่ปลอดภัย ปราศจากการแทรกแซงจากโลกตะวันตก

4.อัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจของตัวเอง เพื่อพยุงให้มีการจ้างงาน และพยุงราคาสินค้าไม่ให้สูงไปกว่านี้โดยใช้ข้อได้เปรียบคือกำหนดราคาน้ำมันภายในประเทศให้ถูกลง เพื่อช่วยลดต้นทุนสินค้า หรืออย่างน้อยไม่ให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงไปกว่านี้

แต่ทั้ง 4 ช่องทางนี้จะยังไม่ปรากฎชัดเจนจนกว่าฝุ่นควันแห่งสงครามจะสงบและเบาบางลงเสียก่อน

จากรัสเซียเราหันไปดู สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป หลังจากคว่ำบาตรก็ประสบปัญหาเงินเฟ้อและราคาพลังงานพุ่งสูงสุดในรอบ 15 ปี ราคาน้ำมันแพงขึ้นเท่าตัว เงินเฟ้ออยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ เจอปัญหาข้าวยากหมากแพงแม้จะไม่เท่ารัสเซีย แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนสหรัฐต้องการ และดันไปเกิดในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีเสียด้วยสิ งานนี้ไบเดน เสียคะแนนเสียงไปเยอะ จากปัญหาเศรษฐกิจและข่าวเกี่ยวกับลูกชายของเขา ที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทพลังงานในยูเครนและเปิดช่องเอื้อผลประโยนช์แลกเปลี่ยนกันอย่างลึกซึ้ง

โจ ไบเดน จึงแก้ตัวด้วยการโบ้ยทุกอย่างว่าเป็นความผิดของ วลาดิเมียร์ ปูติน ที่ทำให้ประชาชนอเมริกันต้องใช้น้ำมันแพง และไม่ลืมที่จะใส่คำว่าเสรีภาพ สันติภาพ และมนุษยธรรม 3 คำศักดิ์สิทธิ์ ลงในสุนทรพจน์ ที่พูดแล้วชวนให้คนเชื่อ เห็นดี เห็นงาม ลุกขึ้นปรบมือให้ทุกครั้งไป

ทั้งที่สหรัฐและโลกตะวันตกไม่จำเป็นต้องคว่ำบาตรอย่างขาดสติหรือเล่นใหญ่จนเกินงามเบอร์นี้ก็ได้ ทั้งยึดทรัพย์ อายัดเงินสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียมาใช้เอง ทำเอาซะจนรัฐบาลประเทศต่างๆ เสียวสันหลังกันไปตามๆ กัน เพราะการคว่ำบาตรในครั้งนี้ดูเป็นการใช้อำนาจจนเกินขอบเขตของคำว่าความเหมาะสมไปจริงๆ

จนนำมาซึ่งคำถามต่อมาว่า แล้วอนาคตข้างหน้าเงินสำรองระหว่างประเทศของพวกเขาที่ฝากอยู่กับสหรัฐอเมริกาจะมีความปลอดภัยแค่ไหน มีอะไรเป็นตัวการันตีว่า หากวันหนึ่งทำให้สหรัฐไม่พอใจ เขาจะไม่ไปอายัดเงินสำรองระหว่างประเทศของเราไปใช้ ใครจะกล้าลงทุนในอังกฤษ ฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศนาโต้ ที่ยึดทรัพย์เศรษฐีนักลงทุน ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสงคราม แบนยันวงการกีฬา หมา แมว สายพันธ์ุรัสเซียยังไม่เว้น

จีนเริ่มหาทางออกด้วยการลดการถือครองเงินสกุลดอลลาร์ แล้วใช้หยวนดิจิทัลเพื่อป้องกันการคว่ำบาตร เช่นเดียวกับรัสเซียที่ใช้เงินสกุลดิจิทัลเช่นกัน ซาอุดิอาระเบียยินดีซื้อขายน้ำมันเป็นเงินหยวน อินเดียยินดีซื้อน้ำมันเป็นเงินรูเบิล ส่วนประเทศอื่นยังคงลังเลที่จะซื้อสินค้าจากรัสเซียเพราะกลัวการถูกคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก

ฮิโรมิ ยามาโอกะ อดีตผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “การคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับรัสเซียทำให้ประเทศต่างๆ มองว่าสกุลเงินดิจิทัล เป็นเครื่องมือในการตอบโต้การครอบงำของเงินดอลลาร์ในระบบการเงินโลก”

จากการสัมภาษณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าวันนี้ตลาดการเงินของโลกได้ถูกแบ่งขั้วอย่างสมบูรณ์แล้ว ประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซีย จีน อินเดีย เริ่มจับมือกันพัฒนาการระบบเงินร่วมกัน ประเทศเล็กๆ ที่ไม่มีกำลังต่อกรกับโลกตะวันตก ก็เริ่มมองหาทางเปลี่ยนแปลงการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินสกุลหยวน หรือเงินสกุลดิจิทัล แต่เรายังไม่อาจกล่าวได้ว่าอนาคตข้างหน้าดอลลาร์สหรัฐจะมีค่าเป็นเพียงกระดาษ แต่มีสัญญาณที่บอกได้ชัดเจนว่า ดอลลาร์สหรัฐจะไม่ใช่สกุลเงินหลักของโลกใบนี้เพียงสกุลเดียวอีกต่อไป เพราะทั่วโลกขาดความไว้วางใจในการฝากเงินสำรองระหว่างประเทศ และถือครองดอลลาร์สหรัฐ กับสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตกจากสงครามครั้งนี้ไปแล้ว

About Post Author

เขียนความคิดเห็น

Copyright © Readspread.com ติดต่อฝ่ายข่าว Tel.089-922-7859 Email/[email protected] | Newsphere by AF themes.