นพ.ประกิต เผยบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน อันตรายไม่ต่างกับบุหรี่มวน
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ นักวิชาการ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด และประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เน้นย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบ ไม่เว้นแม้แต่บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน ซึ่งไม่ได้มีส่วนช่วยในการเลิกบุหรี่ มีแต่จะทำให้ผู้สูบติดสารนิโคตินที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น
นพ.ประกิต กล่าวว่า “บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (Heated tobacco products) นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีจำหน่ายมาได้ประมาณ 2 ปีและยังไม่มีรายงานผลกระทบด้านสุขภาพที่ชัดเจน และในความเห็นขององค์การอนามัยโลกก็ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบเช่นกัน ดังนั้นเราจึงไม่ควรอนุญาต ให้มีบุหรี่ไฟฟ้าชนิดนี้ในประเทศไทย แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าชนิดนี้ในต่างประเทศเช่น ประเทศญี่ปุ่นที่อนุญาตให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าชนิดนี้ แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้อนุญาตให้มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าชนิดพอตหรือน้ำยา เพราะกฎหมายของญี่ปุ่นกำหนดไว้ว่าสารนิโคตินจัดอยู่ในหมวดหมู่สารพิษอันตราย ห้ามไม่ให้มีการจำหน่าย แต่ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าชนิดให้ความร้อนนั้นไม่เข้าข่ายในลักษณะน้ำยาที่เป็นสารนิโคตินโดยตรง จึงมีการอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเห็นดีเห็นงามกับการอนุญาตการใช้บุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด บุหรี่ไฟฟ้า
ผมจึงเน้นย้ำว่าบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดเป็นอันตรายต่อตัวผู้สูบ ไม่ว่าจะมีปริมาณนิโคตินมากหรือน้อยก็ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบอยู่ดี ไม่มีงานวิจัยชิ้นไหนที่บอกว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ จะมีคำเตือนเรื่องอันตรายต่อสุขภาพทิ้งท้ายไว้เสมอ การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแต่จะทำให้ผู้สูบนั้นเสพติดนิโคติน และเลิกบุหรี่ยากมากยิ่งขึ้น และไม่มีรายงานการวิจัยฉบับใดที่ระบุว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ช่วยเลิกบุหรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีแต่เปลี่ยนจากการสูบบุหรี่มวนไปเป็นบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ตัวเลขผู้สูบบุหรี่มวนลดลงแต่หันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์หลักขององค์การอนามัยโลกที่ต้องการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลง”
นพ.ประกิต ได้พูดถึงแนวทางมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยที่มีการนำเสนอไปทั้งหมด 3 แนวทางต่ออีกว่า เราก็ได้ทำหน้าที่ในการให้ข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเลือกแนวทางไหน แต่ไม่ว่ารัฐบาลจะเลือกแนวทางใด หน้าที่ของมูลนิธิก็คือการให้ข้อมูลแก่ประชาชน แต่แนวทางที่ดีที่สุดก็คือการห้ามบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดจะปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด เพราะดูอย่างบุหรี่มวนที่เราพยายามเลิกกันมาหลายสิบปี จำนวนผู้สูบแทบจะไม่ลดเลย และยังมีปัญหาเรื่องมาตรการการจัดเก็บภาษี ปัญหาบุหรี่เถื่อน การลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า มีการจำหน่ายบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชน และถ้าปล่อยให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเสรีจะเกิดปัญหาอย่างไรตามมา
About Post Author
