ค่ายเยาวชนกล้ายิ้มปีที่ 10
“พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้เน้นการปลูกต้นไม้ในใจคน เพื่อให้คนเหล่านั้นหันมาปลูกต้นไม้และรักษาดูแลป่าไม้ของตนเอง ถือเป็นกลยุทธ์ที่เฉียบแหลมในการสร้างความตระหนักและสำนึกรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คนในสังคม บริษัทฯ จึงได้น้อมนำมาประยุกต์ใช้เป็นคอนเซ็ปต์จัดค่ายเยาวชนกล้ายิ้มปีนี้ โดยมุ่งเน้นการปลูกความรู้และจุดประกายความคิดด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของชาติให้กับเยาวชนในพื้นที่ป่าชุมชนทั้งประเทศ” นางบุญทิวา ด่านศมสถิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังพิธีเปิดค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม รุ่นที่ 20 ในหัวข้อ “เยาวชนกล้ายิ้ม ตามรอยพ่อ พอเพียง” จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมกับกรมป่าไม้ จัดขึ้นเพื่อน้อมนำศาสตร์พระราชา “ปลูกป่าในใจคน” ปลูกฝังให้กับเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพื่อให้เกิดจิตสำนึกรักและหวงแหนผืนป่า ใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติรอบตัว สืบทอดเจตนารมณ์การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมต่อจากคนรุ่นปัจจุบัน
นางบุญทิวา กล่าวว่า ค่ายเยาวชนกล้ายิ้มดำเนินการร่วมกับกรมป่าไม้มาเป็นปีที่ 10 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสืบสานอุดมการณ์ดูแลรักษาป่าชุมชนต่อจากคนรุ่นปัจจุบัน โดยสนับสนุนให้เยาวชนจากป่าชุมชนในภาคต่างๆ เรียนรู้ เข้าใจและตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของป่าไม้และธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนออกไซด์ที่ดีของโลก ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน โดยค่ายเยาวชนกล้ายิ้มมุ่งเน้นให้เด็กได้ใกล้ชิดคุ้นเคยกับทรัพยากรธรรมชาติ รู้จักใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ในที่สุด นับจากปี 2551 ค่ายเยาวชนกล้ายิ้มได้ผลิตและบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ต้นกล้าด้วยการปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยปลูกป่าในใจเยาวชนมาถึง 1,553 คน
สำหรับกิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้มครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 20 มีเยาวชนจำนวน 60 คน จาก 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ ตาก พิษณุโลก และนครสวรรค์ เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเรียนรู้ “ศาสตร์พระราชา กับการดูแลสิ่งแวดล้อม” จากพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการจุดประกายและแรงบันดาลให้กับเยาวชน อีกทั้งยังได้แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วย นอกจากนี้ ยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนพระอัจฉริยภาพด้านพลังงานของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย
สำหรับกิจกรรมฐานเยาวชนรวมใจ เยาวชนจะได้ศึกษาหลักทรงงานของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการนำไปประยุกต์ใช้ในงานด้านต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ เช่น จิ๊กซอว์หัวใจ ซึ่งเป็นการระดมความคิดของเยาวชน และการทำความเข้าใจหลักการทรงงานผ่านกิจกรรม ได้แก่ การศึกษาข้อมูลให้เป็นระบบ, ระเบิดจากข้างใน, ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด, แก้ปัญหาจากจุดเล็ก, พออยู่พอกิน, ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ, ทำงานแบบองค์รวม, ใช้อธรรมปราบอธรรม เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในค่ายเยาวชน ยังมีกิจกรรมศึกษาดูงานด้านพฤกษศาสตร์และธรรมชาติวิทยา เพื่อศึกษาพรรณไม้ประเภทต่างๆ รวมทั้งพรรณไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์จากหลากหลายระบบนิเวศ และศึกษาลักษณะธรรมชาติบนโลก ธรณีวิทยา สิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะพืชด้วย หลังกระบวนการเรียนรู้ เยาวชนจะเข้าสู่ภาคปฏิบัติ โดยการจัดสวนในขวดแก้ว (Terrarium) ซึ่งเป็นการจำลองระบบนิเวศไว้ในขวดแก้ว
หงษ์ – เด็กหญิงวัชรินทร์ ดอนชะเอม และ ปอ – เด็กหญิงชลธิชา บุญเอี่ยม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านห้วยบง จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า มาค่ายในครั้งนี้พวกหนูได้ศึกษาเรื่องต่างๆ มากมาย ในวันแรกพวกหนูได้ศึกษาเกี่ยวกับงานของพระราชา เช่น การแก้ไขจากจุดเล็ก และการระเบิดจากข้างใน การสร้างความเข้มแข็งจากภายในที่ช่วยฝึกให้พวกหนูรู้จักตัวเอง การแก้ไขเฉพาะหน้าและฝึกระงับอารมณ์ร้อนของตัวเอง วันที่สองพวกหนูได้ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์และพรรณไม้ต่างๆ ซึ่งหลายอย่างเป็นสิ่งที่พวกหนูไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น พืชกินแมลง และได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของป่าไม้ว่า เป็นแหล่งอาหารและแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนออกไซด์ที่ช่วยไม่ให้โลกร้อน โดยพวกหนูตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้จากค่ายในครั้งนี้ไปถ่ายทอด
About Post Author
