มีฝุ่น ก็มีหมอกฤดูหนาวได้
เอาละเรามาปูพื้นฐานวิทย์ม.ต้น กันอีกรอบ ปัจจัยการเกิดหมอกเกิดจาก สภาพอากาศเย็น(โดยเฉพาะฤดูหนาว) มีความชื้นสัมพัทธ์ ในอากาศประมาณ70-80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป และความเร็วกระแสลมต่ำหรือไม่มีลมเลย
ส่วนปัจจัยการเกิดฝุ่น เกิดจากการเผาไหม้ในประเทศและต่างประเทศ
เห็นปัจจัยของการเกิดทั้งสองสิ่งนี้ คุณสังเกตเห็นอะไรไหม – ไม่เห็น…จริงเหรอ ต้องเห็นสิ ทั้งสองอย่างมีปัจจัยการเกิดแตกต่างกัน
แตกต่างกันแล้วยังไง …. เมื่อปัจจัยการเกิดแตกต่างกัน ทั้งสองปรากฏการณ์ย่อมเกิดได้พร้อมกัน แต่ถ้ามีปัจจัยเดียวกัน จะทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง จนกว่าปัจจัยหรือตัวแปรการเกิดนั้นเปลี่ยนไป
2-3 วันที่ผ่านมา กระแสลมต่ำ ความชื้นสูง อากาศเย็นย่อมทำให้เกิดหมอกในตอนเช้า
แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีฝุ่น PM2.5 ในปริมาณสูงสะสมอยู่ในตัวเมืองเช่นกัน จึงเกิดปรากฏการณ์ทั้งหมอกและฝุ่น พร้อมกันได้ เพราะปัจจัยการเกิดทั้งสองปรากฏการณ์ต่างกัน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นหมอก …. เราจะรู้ได้ว่าเป็นหมอกจากสองสิ่งคือ ความชื้นในอากาศ ความชื้นจะอยู่ประมาณ 80 ขึ้นไป กับการสลายของหมอกเมื่อแสงแดดนั้นแรงขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาตอนเช้าหมอกลงหนา ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำ แต่พอช่วง 9 โมงเช้าหมอกทั้งหมดก็หายไปเหลือแต่ฝุ่น ทัศนวิสัยในระยะ 500 เมตรดีขึ้น แต่มองไกลๆก็จะมองเห็นกลุ่มฝุ่น ถ้าสังเกตนะ
มีคนแย้งว่าค่าฝุ่นตอนเช้าระดับม่วงเลยนะ มันต้องเป็นฝุ่นสิ ไม่ใช่หมอก ….
สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือหมอก สามารถหลอกเครื่องวัดค่าฝุ่นได้ ตามภาพข้างล่าง ค่า Fog ตามกราฟด้านขวา ไปดันค่าฝุ่นให้สูงขึ้น เพราะเป็นอนุภาคขนาดเล็กเหมือนกัน
อีกกราฟนึงได้จากเครื่องวัดค่าฝุ่น สวนสาธารณะหนองจอก วันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 6.00-12.00 น. ซึ่งเป็นวันที่เกิดหมอกหนาที่หนองจอก จะสังเกตเห็นได้ว่า ในช่วงที่เกิดหมอกตอนเช้าเครื่องวัดค่า PM สูงถึง 170 และค่อยๆ ลดลงจนเหลือระดับ 70 เมื่อหมอกจางหายไป ส่วนความชื้นสัมพัทธ์ 80+ สูงในช่วงเกิดหมอก และลดเหลือ 50 เมื่อหมอกหายไป ส่วนกระแสลม 0 ตลอดทั้งวัน
ก็หวังว่าจะเป็นความรู้ให้ทุกท่านนำไปใช้แยกแยะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นหมอกหรือควัน หรือเป็นทั้งควันและหมอก ขอบคุณครับ
About Post Author
