Readspread.com

News and Article

ไหว้ครูมวยไทยสร้างสถิติโลก 2566 ประเทศไทยได้อะไร

ย้อนกลับไปประมาณปี 2535 ยุคสมัยนั้น ผู้ปกครองนิยมส่งลูกหลานเรียนศิลปะป้องกันตัวอย่าง ยูโด คาราเต้ เทควันโด มากกว่า มวยไทย ไม่ใช่เพราะมวยไทยด้อยกว่า แต่ ค่ายฝึกสอนมวยไทยสมัยนั้นไม่ค่อยเป็นระบบระเบียบ ทุกอย่างฝึกภายใต้การสร้างความแข็งแกร่งระดับขึ้นชกเวทีมวยลุมพินี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่อยากฝึกมวยไทยจะไปถึงขั้นนั้น

ไหว้ครูมวยไทยทำลายสถิติโลก 2566

เมื่อเทียบกับศิลปะป้องกันตัวต่างชาติ ที่จัดรูปแบบเป็นสากล มีระดับชั้นการฝึก ใครๆ ก็ฝึกได้ แถมมีภาพยนต์ส่งเสริมศิลปะป้องกันสายนั้นออกมา ยิ่งทำให้คนสนใจเรียนมากขึ้น แต่ท่ามกลางกระแสการแข่งขัน ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ทุกคนต่างรู้ดีว่ามวยไทย เป็นศิลปะป้องกันตัว แนวตั้งสู้ ที่แกร่งที่สุด

จนกระทั่งภาพยนตร์เรื่ององค์บาก ออกฉายไปทั่วโลก กระแสการฝึกมวยไทยจึงเริ่มบูมขึ้นมา มียิมที่นำครูมวยไทย มาฝึกสอนให้กับคนทั่วไป เน้นเสริมสร้างสุขภาพ ป้องกันตัว ไม่ได้ฝึกเอาเป็นเอาตายเพื่อส่งขึ้นเวทีมวยราชดำเนิน ความดิบเถื่อนหายไป ทำให้คนสนใจหันมาเรียนมวยไทยกันทั่วโลก มีการปรับพัฒนารูปแบบการสอนมวยไทยให้เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย และใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น

ล่าสุด ททท. ที่ไม่ได้มีชื่อเต็มว่า เทยเที่ยวไทย เปิดเผยตัวเลขรายได้จากมวยไทยปี 62 อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท เป็นรายได้จากชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาจ่ายค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าเสื้อผ้า ค่าอุปกรณ์การฝึกซ้อม ค่าอาหาร และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ระหว่างอยู่ในเมืองไทย และตัวเลขนี้มีอัตรารายได้เติบโตอยู่ที่ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี และคาดว่าน่าจะสูงมากกว่านี้ เมื่อได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก และปัจจุบันมีค่ายมวยไทยเปิดสอนมากกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ

ในต่างประเทศมียิมที่เปิดการฝึกสอนมวยไทยเกือบ 4,000 แห่งทั่วทวีปยุโรป และยิมเหล่านี้มีความต้องการอุปกรณ์การฝึกมวยไทย ครูมวยไทย อย่างสูง แม้ตัวเลขจะไม่ปรากฏกว่าธุรกิจยิมมวยไทยในยุโรปอยู่ที่เท่าไหร่ แต่หากเทียบกับจำนวนยิมในไทยที่สร้างรายได้รวมมากกว่าแสนล้านบาท ธุรกิจยิมมวยไทยในยุโรปก็คงมีรายได้รวมไม่น้อยไปกว่ากัน ตีตัวเลขง่ายๆ คือมากกว่า 2 แสนล้านบาท รายได้ระดับที่ใครเห็นก็ต้องอิจฉา

ซึ่งกว่าจะมวยไทยจะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ และมีผู้ให้ความสนใจเข้าเรียนอย่างแพร่หลายได้ในระดับนี้ ต้องขอบคุณสารตั้งต้นแห่งความสำเร็จ เหล่านี้คือ

ภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก และต้มยำกุ้ง และนักแสดงมากความสามารถอย่าง จา พนม และทีมงานผู้สร้างทุกคนในเรื่องนี้ ที่ทำให้ทั่วโลกรู้จักมวยไทย จนเกิดภาพยนตร์เลียนแบบตามมามากมาย

ไอคอนมวยไทยอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ นักสู้ชาวไทย ที่นำมวยไทยไปประกาศศักดา รายการแข่งขันการต่อสู้อย่างรายการ K1 ออกอาวุธอันตรายถึงขนาดผู้จัด ต้องเพิ่มกติกาห้ามตีศอก ตีเข่า แบบมวยไทย นักชกต่างชาติในรายการนี้บอกตรงกันว่า นักสู้ที่ไม่อยากเจอมากที่สุดคือ บัวขาว

อีกท่านคือ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยไทยระดับอัจฉริยะ ครบเครื่องทั้งลูกเล่น ความเร็ว ความแข็งแกร่ง กับสถิติไร้พ่าย 8 ปีชนะต่อเนื่อง 65 ครั้ง เป็นอีกคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับมวยไทย มีคลิปการสอนมวยไทยของเขากับชาวต่างชาติ ที่ดูสนุกสนานเป็นกันเอง ทำให้คนอยากมาเรียนมวยไทยกันมากขึ้น

ก้าวต่อไปของมวยไทย คือการสร้างชื่อให้จารึกในใจผู้คนทั่วโลก เช่นเดียวกับ คาราเต้ กังฟู เทควันโด และศิลปะป้องกันตัวชาติอื่นที่มีชื่อเสียงก่อนหน้านั้น และการจะทำชื่้อให้เป็นที่จารึก ก็คือการโปรโมทผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่นำมวยไทยไปปะทะ กับศิลปะการต่อสู้ชนิดอื่น การโปรโมทผ่านภาพยนตร์ และการสร้างสถิติโลก แม้กระทั่งการจัดพิธีไหว้ครูมวยไทย ในงาน Amazing Muaythai Festival 2023 เพื่อทำลายสถิติโลก ก็เป็นอีกหนึ่งการโปรโมท ที่ทำให้ชื่อมวยไทยได้จารึกไว้ในองค์กรกลางที่เก็บสถิติต่างๆ บนโลกใบนี้อย่าง กินเนสบุ๊ก

ภายในงานก็มีผู้ฝึกมวยไทยชาวต่างชาติจำนวนมากให้ความสนใจ เข้ามาร่วมไหว้ครู เรียนรู้ศึกษามวยไทยในสายต่างๆ อย่าง มวยท่าเสา มวยไชยา มวยลพบุรี มวยโคราช สร้างชื่อเสียงและความประทับใจให้นักท่องเที่ยว เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเม็ดเงินเข้าประเทศอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นตัวเลขรายได้ระดับแสนล้านบาทต่อปีที่ประเทศไทยจะได้ กับงบประมาณที่จะช่วยเพิ่มรายได้เข้าประเทศในทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมวยไทยจากการจัดงานครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่้งที่ไทยเราจะได้รับกลับมาในระยะยาว.

About Post Author

เขียนความคิดเห็น

Copyright © Readspread.com ติดต่อฝ่ายข่าว Tel.089-922-7859 Email/[email protected] | Newsphere by AF themes.